วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

ขีดจำกัดการได้ยินของหูมนุษย์



รอบ ๆ ตัวเราเต็มไปด้วยเสียงที่หูไม่สามารถได้ยินอีกมากมาย เพราะโดยปกติแล้วมนุษย์เราจะได้ยินเสียงที่มีช่วงความถี่ (Frequency) จำกัด นั่นคืออยู่ในช่วงความถี่ระหว่าง 20 -20,000 เฮิรตซ์ (hertz) หรือที่เรียกกันว่าช่วงการได้ยิน (audible range) ส่วนเสียงที่มีค่าความถี่ต่ำหรือสูงกว่านั้นหูของเราไม่สามารถได้ยินได้.

เสียงที่อยู่นอกเหนือจากการได้ยินของมนุษย์ หากคลื่นเสียงนั้นมีความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์เรียกว่า คลื่นใต้เสียง (Infrasound) หรือคลื่นอินฟราโซนิค (infrasonic wave) ซึ่งเป็นคลื่นกลประเภทคลื่นตามยาวซึ่งมีความถี่ต่ำกว่าคลื่นเสียงที่คนปกติได้ยิน หรือมีความถี่ต่ำกว่า 20เฮิร์ตซ์ ซึ่งเกิดจากการสั่นของตัวก่อกำเนิดเสียงขนาดใหญ่ เช่น การสั่นของตึก แผ่นดินไหว เป็นต้น.

ส่วนคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงกว่า 20,000 เฮิรตซ์ เรียกว่า คลื่นเหนือเสียง (Ultrasound) หรือคลื่นอัลทราโซนิค (ultrasonic wave) ซึ่งเป็นคลื่นกลประเภทคลื่นตามยาวเช่นกัน ซึ่งมีความถี่มากกว่าคลื่นเสียงที่คนปกติได้ยิน หรือมีความถี่ระหว่าง 20,000 เฮิรตซ์ ขึ้นไป ซึ่งเกิดจากการสั่นของตัวก่อกำเนิดเสียงขนาดเล็ก.

สำหรับสัตว์ชนิดต่าง ๆ ก็จะได้ยินเสียงในช่วงความถี่หนึ่งเช่นกัน แต่ช่วงความถี่ที่สัตว์แต่ละชนิดได้ยินจะแตกต่างกันไป อาจมีความถี่ต่ำหรือสูงกว่าช่วงการได้ยินของมนุษย์ เช่น:

- สุนัขสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ระหว่าง 15 – 50,000 เฮิรตซ์

- แมวสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ระหว่าง 60 – 65,000 เฮิรตซ์

- ค้างคาวสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ระหว่าง 10,000 – 120,000 เฮิรตซ์

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่ามีสัตว์บางชนิดสามารถได้ยินเสียงบางอย่างที่หูมนุษย์ไม่สามารถได้ยินได้ สุนัขสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ต่ำและสูงกว่าช่วงการได้ยินของมนุษย์ แมวสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่สูงกว่าช่วงการได้ยินของมนุษย์ และค้างคาวสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่สูงกว่าช่วงการได้ยินของมนุษย์ และยังมีสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถรับฟังเสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินได้


วิทยาการอิสลามกับขีดจำกัดการได้ยินของหูมนุษย์

ท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ภริยาของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้เล่าว่า:

دَخَلَتْ عَلَيَّ عَجُوزَانِ مِنْ عُجُزِ يَهُودِ الْمَدِينَةِ فَقَالَتَا إِنَّ أَهْلَ الْقُبُورِ يُعَذَّبُونَ فِي قُبُورِهِمْ قَالَتْ فَكَذَّبْتُهُمَا وَلَمْ أُنْعِمْ أَنْ أُصَدِّقَهُمَا فَخَرَجَتَا وَدَخَلَ عَلَيَّ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقُلْتُ لَهُ يَا رَسُولَ اللَّهِ إِنَّ عَجُوزَيْنِ مِنْ عُجُزِ يَهُودِ الْمَدِينَةِ دَخَلَتَا عَلَيَّ فَزَعَمَتَا أَنَّ أَهْلَ الْقُبُورِ يُعَذَّبُونَ فِي قُبُورِهِمْ فَقَالَ صَدَقَتَا إِنَّهُمْ يُعَذَّبُونَ عَذَابًا تَسْمَعُهُ الْبَهَائِمُ قَالَتْ فَمَا رَأَيْتُهُ بَعْدُ فِي صَلَاةٍ إِلَّا يَتَعَوَّذُ مِنْ عَذَابِ الْقَبْرِ

ความว่า: ได้มีหญิงชราสองคนจากชาวยิวเข้ามาหาฉัน แล้วทั้งสองก็พูดขึ้นว่า แท้จริงคนที่ถูกฝั่งในหลุ่มฝังศพจะถูกทรมานในสุสานของเขา และฉันก็ไม่ได้เชื่อเขาทั้งสอง แล้วเขาทั้งสองก็ออกไป และท่านเราะสูลลอฮฺ –ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม- ก็ได้เข้ามาหาฉัน และฉันก็ได้เล่าแก่ท่านว่ามีหญิงชราสองคนจากชาวยิวมาหาฉัน และเขาทั้งสองอ้างว่าคนที่ถูกฝั่งในหลุ่มฝั่งศพจะถูกทรมานในสุสาน.

แล้วท่านก็กล่าวว่า: เขาทั้งสองพูดจริงแล้ว แท้จริงพวกเขาจะถูกทรมานในหลุ่มฝั่งศพโดยที่ปศุสัตว์ต่าง ๆ จะได้ยินการทรมาน

ท่านหญิงอะอิชะฮฺกล่าวว่า: ฉันไม่เห็นท่านหลังจากนั้นในเวลาละหมาด นอกจากท่านจะขอคุ้มครอง (ต่ออัลลอฮฺ) จากการทรมานในสุสาน

[บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์(6366), และมุสลิม(922)]

หะดีษบทนี้ได้บอกอย่างชัดเจนว่าปศุสัตว์จะได้ยินเสียงการทรมานของคนตาย และเสียงดังกล่าวนี้มนุษย์ไม่สามารถที่จะได้ยินได้ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของวิทยาศาสตร์ที่บอกว่ามนุษย์มีขีดจำกัดในการได้ยิน และมีสัตว์บางชนิดสามารถได้ยินเสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินได้.


via : alhadeeth.net

ไม่มีความคิดเห็น: