ดร.มะรอนิง สาแลมิง รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างโรงเรียนสอนศาสนา Al-Irshad ประเทศ Singapore กับโรงเรียนสอนศาสนาเครือข่ายโรงเรียน “คุณภาพอัสสลาม” ประเทศไทย ณ ห้องออร์คิด แกรนด์ บอลรูม โรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ รีสอร์ทแอนด์สปา อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยมี นายสุรพล รัตนไชย ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ Mr. Benedict Cheong ซีอีโอมูลนิธิเทมาเส็ก นายณัฐพงศ์ ลัทธพิพัฒน์ นักการทูตชำนาญการ กระทรวงการต่างประเทศ ผศ.ดร.อิบรอเฮม ณรงค์รักษาเขต ประธานเครือข่ายโรงเรียนคุณภาพอัสสลามประเทศไทย ผู้แทนจากมัดราซะฮ์ อัลอิรซาด สิงคโปร์ สมาชิกสมาคมเครือข่ายสมาคมอัสสลาม ผู้รับใบอนญาต คณะครูผู้สอนในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการกว่า 120 คน และเจ้าหน้าที่จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้
พิธีเปิดการลงนามความร่วมมือ (MOA) ระหว่างโรงเรียนสอนศาสนาอัลอิรซาด ประเทศสิงคโปร์ กับสมาคมเครือข่ายโรงเรียน “คุณภาพอัสสลาม” ประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเทมาเส็ก (Termasek Foundation) ประเทศสิงคโปร์ ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่มุ่งหวังเพื่อพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ มีมัดราซะฮ์อัลอิรซาดซึ่งเป็นสถาบันอิสลามศึกษาในประเทศสิงค์โปร์ที่ประสบความสำเร็จในการบูรณาการวิชาการสามัญและวิชาการศาสนาด้านการจัดการศึกษาให้แก่มุสลิมสิงคโปร์อย่างมีคุณภาพ ตลอดจนได้ให้การสนับสนุนในการพัฒนาการศึกษาแก่โรงเรียนสอนศาสนาในต่างประเทศ เช่นประเทศอินโดนีเซียเป็นจำนวนหลายแห่ง อาทิ จังหวัดบันดุง เกาะบันตัม และเกาะกาลีมันตัน ซึ่งถือเป็นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศเพื่อนบ้าน
ดร.มะรอนิง สาแลมิง รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต. เป็นหน่วยงานหลักที่ให้ความสำคัญและรับผิดชอบในการพัฒนาทั้งในด้านสังคมและการศึกษา จึงเห็นความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสังคม สร้างความมั่นคงแก่มนุษย์ และถือเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นสังคมที่มีความสันติสุขในระยะยาวและยั่งยืน การจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ลักษณะพหุวัฒนธรรม จำเป็นต้องจัดการศึกษาที่มีการผสมผสานระหว่างด้านวิชาการและศาสนา การที่สามารถนำการศึกษาทั้งสองด้านคือด้านศาสนาและสามัญมาบูรณาการให้เป็นหนึ่งเดียว จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งหวังว่าความร่วมมือระหว่างมัดราซะฮ์ Al-Irshad และเครือข่ายสมาคมอัสสลามโดยการสนับสนุนของมูลนิธิเทมาเส็ก (Temasek) ในครั้งนี้ จะเป็นการจุดประกายความร่วมมือระหว่างคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ศอ.บต. กับสถาบันการศึกษาและรัฐบาลสิงคโปร์ในโอกาสต่อไป
Mr. Benedict Cheong ซีอีโอมูลนิธิเทมาเส็ก ได้กล่าวถึงความเป็นมาก่อนเริ่มโครงการนี้ว่า ก่อนหน้านี้ทางมูลนิธิเทมาเส็กได้ให้การสนับสนุนและพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนสอนศาสนาในอินโดนีเซียจนได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี และครั้งหนึ่งได้พบกับ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ซึ่งท่านได้ให้ข้อเสนอแนะว่าน่าจะมีโครงการลักษณะอย่างนี้ในประเทศไทยด้วยโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากมีโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามเป็นจำนวนมาก จนในที่สุดได้พบกับตัวแทนเครือข่ายโรงเรียนเอกชน และได้เริ่มให้การสนับสนุนเมื่อสองปีที่ผ่านมา
ส่วน ผศ.ดร.อิบรอเฮม ณรงค์รักษาเขต ประธานเครือข่ายโรงเรียนคุณภาพอัสสลาม ประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณ และกล่าวชื่นชมทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนการเรียนการสอนศาสนาอิสลามในภาคใต้โดยเฉพาะมูลนิธิเทมาเส็ก และ ศอ.บต. ที่ให้ความสำคัญด้านการศึกษา ทั้งนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มศักยภาพการพัฒนาการเรียนการสอนศาสนาอิสลามและทำให้โครงการสามารถบรรลุผลสำเร็จได้เร็วขึ้นแล้ว โครงการนี้ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น